ข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชี
(ฉบับที่ ๖)
เรื่อง ผู้ทำบัญชี
พ.ศ.๒๕๔๗
โดยที่เป็นการสมควรให้มีข้อบังคับว่าด้วยผู้ทำบัญชี เพื่อกำหนดรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับผู้ทำบัญชีเพื่อให้ครบถ้วนนอกจากที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติสภาวิชาชีพบัญชี พ.ศ.๒๕๔๗
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๗ (๑๑) มาตรา ๓๐ มาตรา ๔๔ วรรคสอง และมาตรา ๔๕ (๔)(๕) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๔๗ สภาวิชาชีพบัญชีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพจึงออกข้อบังคับไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า ข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชี (ฉบับที่ ๖) เรื่อง ผู้ทำบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๗
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในข้อบังคับนี้
ผู้ทำบัญชี หมายความว่า ผู้ทำบัญชีตามกฎหมายว่าด้วยการบัญชี
คณะกรรมการ หมายความว่า คณะกรรมการสภาวิชาชีพบัญชี
ปี หมายความว่า ปีปฎิทิน
ผู้ขึ้นทะเบียน หมายความว่า ผู้ทำบัญชีที่ขึ้นทะเบียนไว้กับสภาวิชาชีพ
ข้อ ๔ ผู้ที่จะประกอบวิชาชีพเป็นผู้ทำบัญชีได้ ได้แก่บุคคลดังต่อไปนี้
(๑) สมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี หรือ
(๒) ผู้ขึ้นทะเบียนไว้กับสภาวิชาชีพบัญชี
ข้อ ๕ ผู้ทำบัญชีซึ่งเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชีต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดในข้อบังคับว่าสมาชิกด้วยการรับสมัครสมาชิก ในกรณีที่ผู้ทำบัญชีเป็นสมาชิกวิสามัญและเห็นผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ ๖ วรรคสาม ด้วย
ข้อ ๖ ผู้ขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีต้องมีคุณสมบัติและต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดไว้ในมาตรา ๔๕ แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๗ และต้องมีวุฒิการศึกษาเช่นเดียวกับวุฒิการศึกษาของผู้ทำบัญชีตามประกาศของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าซึ่งออกกฎหมายว่าด้วยการบัญชี
ในกรณีที่ผู้ขอขึ้นทะเบียนได้รับโทษหรือเคยถูกลงโทษจรรยาบรรณตามมาตรา ๔๙ (๓) และหรือ (๔) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๗ ต้องพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี
ในกรณีที่ผู้ขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย ต้องมีความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานการบัญชีและกฎหมายภาษีอากรของไทย เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการบัญชีและกฎหมายภาษีอากรที่เกี่ยวข้องได้
ข้อ ๗ ภายใต้บังคับ ข้อ ๑๒ แห่งข้อบังคับนี้ ผู้ใดประสงค์จะขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีกับสภาวิชาชีพ ให้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนต่อนายทะเบียนตามที่นายกสภาวิชาชีพกำหนดพร้อมกับชำระค่าธรรมเนียมปีดังต่อไปนี้
(๑) ผู้ทำบัญชีซึ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่าขึ้นไป ๕๐๐ บาท
(๒) ผู้ทำบัญชีซึ่งสำเร็จการศึกษาต่ำกว่าระดับปริญญาตรี ๓๐๐ บาท
ข้อ ๘ เมื่อเจ้าหน้าที่สภาวิชาชีพบัญชีที่นายกสภาวิชาชีพบัญชีมอบหมายได้ตรวจคำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชี และเห็นว่าผู้ยื่นคำขอมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว ให้นายทะเบียนรับขึ้นทะเบียน ให้กับผู้นั้น พร้อมจัดให้มีหลักฐานการรับขึ้นทะเบียนมอบให้แก่ผู้นั้น
ในกรณีที่ไม่อนุญาตการขึ้นทะเบียนให้ระบุเหตุผลแห่งการไม่อนุมัตินั้นไว้ในหนังสือแจ้งแก่ผู้ยื่นคำขอ พร้อมกับคืนค่าธรรมเนียมที่ได้รับตามข้อ ๗ แก่ผู้ยื่นคำขอโดยไม่มีดอกเบี้ย
ข้อ ๙ ผู้ขึ้นทะเบียนที่ประสงค์ต่ออายุการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีในปีถัดไป ให้ยื่นคำขอต่ออายุการขึ้นทะเบียนกับสภาวิชาชีพบัญชี พร้อมกับชำระค่าธรรมเนียมสำหรับไปถัดไปนั้นภายในอัตราที่กำหนดในข้อ ๗ (๑) หรือ (๒) แล้วแต่กรณี โดยอาจขอชำระค่าธรรมเนียมได้ล่วงหน้าภายในสามเดือนก่อนเริ่มต้นปีถัดไปได้แต่จะชำระล่าช้าเกินเดือนมกราคมของปีถัดไปไม่ได้
ข้อ ๑๐ ในกรณีที่ผู้ขึ้นทะเบียนไม่ชำระค่าธรรมเนียมให้ครบถ้วนภายในเวลาที่กำหนดในข้อ ๙ ให้นายทะเบียนเพิกถอนออกจากทะเบียน และประกาศรายชื่อไว้ ณ ที่ทำการของสภาวิชาชีพบัญชี เว้นแต่ผู้ขึ้นทะเบียนนั้นจะมีหนังสือแสดงต่อคณะกรรมการหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการมอบหมายให้เห็นว่าการที่ไม่ชำระหรือชำระไม่ครบถ้วนนั้นเกิดจากความจำเป็นซึ่งมิใช่ความผิดของตน เช่น เดินทางไปต่างประเทศ เจ็บป่วย หรือมีเหตุอันสมควรอื่นใดมิได้มีเจตนาที่จะไม่ชำระ
ข้อ ๑๑ ให้นายทะเบียนจัดทำทะเบียนผู้ทำบัญชีที่ขอขึ้นทะเบียนไว้กับสภาวิชาชีพบัญชีไว้เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบและอ้างอิง
ข้อ ๑๒ ผู้ทำบัญชีซึ่งได้แจ้งการเป็นผู้ทำบัญชีกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๗ ให้ถือว่าผู้นั้นได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีกับสภาวิชาชีพบัญชี โดยได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมจนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ และหากผู้นั้นประสงค์จะเป็นผู้ทำบัญชีต่อไป ให้ชำระค่าธรรมเนียม ปี ๒๕๔๘ ภายในเดือนมีนาคม ๒๔๕๘
ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ |
เกษรี ณรงค์เดช |
(ศาสตราจารย์เกษรี ณรงค์เดช) |
นายกสภาวิชาชีพบัญชี |
|